Oligio ยกกระชับแบบหลับได้
Oligio คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุด อันดับ 1 จากเกาหลี
เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopalar RF ที่ยิงตรงลงลึกถึงชั้นไขมันกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน พร้อมสลายไขมันในคราวเดียว ผลลัพธ์คือที่ได้คือผิวหนังที่ยกกระชับและกรอบหน้าที่มีมิติ ที่สำคัญการันตีไม่เจ็บ ไม่แสบร้อนขณะทำยังรู้สึกสบาย จนหลับได้ ทำเสร็จเห็นผลทันที รู้สึกตัวอีกทีก็สวยเลย
เหตุผลที่ Oligio เจ็บน้อยกว่า
เนื่องจาก เทคโนโลยีในการมี cooling gas ของ oligio ทำให้ลดความร้อนที่กระจายสู่ผิวด้านบนและ ความเร็วในการปล่อยพลังงานความร้อนได้ตรงจุด จึงทำให้เกิดข้อดีในการลดความเจ็บปวดขณะกำลังทำได้ดีอย่างมาก สำหรับท่านใดที่เคยมีปัญหาจากการทำเครื่องยกกระชับ
“ลองมาทดลอง oligio กันนะคะ แอดไลน์ @thehazelclinic“
Oligio
เปรียบเทียบ Oligio กับ เครื่องอื่นๆ
อันดับแรกเรื่องความเจ็บปวด การันตีว่า Oligio ขณะทำจะรู้สึกอุ่นๆสบายๆเพียงเท่านั้น ไม่เจ็บหรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเห็นความแตกต่างตั้งแต่การทำครึ่งหน้าว่าหน้าเรียวเล็กและผิวกระชับขึ้นจริงๆ
ใช้ระยะเวลาแค่ไหน ในการทำ Oligio?
ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้
ข้อห้ามหลังการรักษาด้วยเครื่อง Oligio?
ไม่มีข้อห้ามหลังทำ ไม่บวม ไม่ต้องพักหน้า หลังทำเสร็จสามารถแต่งหน้าได้เลยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับ Oligio
Oligio เป็นเครื่องปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ส่งผ่าน พลังงานความร้อนค่อยๆ แผ่ลงใน 3 ชั้นผิว คือชั้นหนังกำพร้า, หนังแท้ และ ชั้นไขมัน ลงลึกถึง 4.3 มิลลิเมตร กระตุ้นการส้รางใหม่ของคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้เกลียวเส้นใยคอลลาเจนแข็งแรง ผิวหน้าแน่นขึ้น และใบหน้ายกกระชับ ลดการเกิดริ้วรอย ผิวหนังที่หย่อนคล้อย และไขมันบนใบหน้าลดลง กรอบหน้าชัดขึ้น และ Oligio จะเหมาะใน คนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก คนที่ใบหน้ามีเนื้อแก้มหรือมีเหนียง คนที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว คนที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้า สำหรับ
ข้อดีของ Oligio
– เพิ่มความปลอดภัยในการรักษา ตัวเครื่องมีระบบตรวจระดับอุณหภูมิที่ผิวและระบบตรวจจับแรงกด ในขณะทำการรักษาทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น และตัวเครื่องมีระบบตรวจวัดความต้านทานผิวในขณะทำการรักษา ซึ่งส่งผลให้การปล่อยพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– เพิ่มความสบายในการรักษาด้วยระบบแรงสั่นสะเทือนถึง 3 ระดับ และด้วยขนาด Tip ที่มีขนาดใหญ่ถึง 4 ตารางเซนติเมตร และมีโหมดการปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็วทำให้ประหยัดเวลาในการรักษามากขึ้น และยังสามารถปรับระดับความเย็นเข้ากับระดับพลังงานที่ใช้ เพื่อความสบายในการรักษา
ผลลัพธ์จากการทำ Oligio
– เห็นผลการยกกระชับทันที เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินหดตัว ประมาณ 20-30% หลังจากนั้นสภาพผิวจะดีขึ้นเนื่องจากเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห็นผลเต็มที่ที่ 3-6 เดือน หลังจากการรักษา และอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้
– แนะนำให้ทำต่อเนื่องปีละครั้ง จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวเดิมให้ดีขึ้น และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อห้าม ข้อระวัง ของการทำ Oligio
– บุคคลที่มีการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย
– บุคคลที่มี Bioabsorbable รากฟันเทียม
– บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวกับกระบวนการรักษาบาดแผล
– มีการติดเชื้อบางชนิด ที่บริเวณที่จะทำการรักษา
– หญิงตั้งครรภ์ / ให้นมบุตร
– บุคคลที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน, โรคลมบ้าหมู, โรคเลือดหรือระบบการแข็งตัวของเลือด
– บุคคลที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง และบุคคลที่ต้องกินยาต้านการอักเสบทุกวัน
– บุคคลที่มีแผลเปิด บริเวณที่จะทำการรักษา และบุคคลที่มีการติดเชื้อไวรัสเริมและยังติดเชื้ออักเสบอยู่
– บุคคลที่มีประวัติรับการรักษาด้วย โบท็อก หรือฟิลลเลอร์ไม่ถึง 2 อาทิตย์ และบุคคลที่ได้รับการปลูกถ่ายผิวหนังหรือ ปลูกถ่ายไขมันใบบริเวณที่ทำการรักษาไม่เกิน 6 เดือน
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยี Monopolar RF
Radio-frequency (RF) : เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ เพื่อให้ความร้อนแก่ผิวหนัง มีจุดประสงค์ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนอิลาสติน และไฮยาลูโรนิก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เนื้อเยื่อส่งผลให้มีการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ลดการเกิดริ้วรอยและผิวหนังที่หย่อนคล้อย
Oligio กับ Hifu ต่างกันอย่างไร ?
Oligio จะเหมาะใน ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยที่มี กระเปราะแก้ม มีเหนียง หลักการทำงาน oligio จะปล่อยคลื่นวิทยุชนิด Monopolar RF ซึ่งจะยิงพลังงานลงไปตั้งแต่ชั้นผิวหนังจนถึงชั้นไขมัน ช่วยทำให้ผิวกระชับ ใบหน้ามีกรอบ และยังสลายไขมันที่กระเปราะแก้มและเหนียงด้วยค่ะ
ส่วน Hifu จะปล่อยพลังงาน Ultrasound ซึ่งจะส่งพลังงานลงไปลึก ถึงชั้น SMAS เหมาะในผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย จะทำให้ใบหน้ายกและตึงขึ้นค่ะ
เพราะฉะนั้น ทั้ง 2 เครื่องทำงานคนละอย่างกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ควรทำทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ
รีวิวจากลูกค้า
Dr. Fame
พญ.ณัฐภัสสร
วิวรรธน์สมบัติ
- แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเลเซอร์
- อาจารย์แพทย์แพทย์ผิวหนังและเลเซอร์ สถาบันโรคผิวหนัง
Master of Science in Clinical Dermatology, St John Institute of Dermatology, King’s College London
Luxury, quality & comfort
Our Clinic
การบริการในระดับพรีเมี่ยม เมื่อก้าวเข้ามารับบริการ จะสัมผัสถึงบรรยากาศอันสะดวกสบาย อบอุ่น ด้วยบริการแบบ Customized Service ทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวและที่ประทับใจเป็นพิเศษ และยังมีที่จอดรถยนต์รองรับอย่างเพียงพอ